ปัสสาวะเล็ด (Urinary Incontinence)

ปัสสาวะเล็ด คือภาวะที่เราไม่สามารถควบคุมปัสสาวะได้ มักเล็ดเมื่อมีการออกแรง เช่น การไอจาม หัวเราะ หรือเล็ดทันทีเมื่อมีการปวดปัสสาวะ ไม่สามารถกลั้นได้

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดปัสสาวะเล็ดมีได้หลายอย่าง เช่น
⁃ ความอ้วน การยกของหนักเป็นประจำ ภาวะท้องผูก ทำให้แรงดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น
⁃ การคลอดลูกตามธรรมชาติ วัยสูงอายุ ทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อนตัว

วันนี้ Unity Nursing care จึงมาแนะนำวิธีปฏิบัติตัวเพื่อลดและป้องกันภาวะปัสสาวะเล็ดกันค่ะ

  1. ลดน้ำหนักตัวลง เพราะ น้ำหนักตัวที่ลดลงจะทำให้แรงดันในช่องท้องของเราลดลงนั่นเองค่ะ
  2. หลีกเลี่ยงการยกของหนักเป็นประจำ
  3. แก้ไขภาวะท้องผูก เช่น ดื่มน้ำ ทานผัก ผลไม้เพิ่มขึ้น
  4. การบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Kegel Exercise) เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ทำให้ช่วยในการพยุงท่อปัสสาวะ จึงลดอาการปัสสาวะเล็ดได้

วิธีการบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
ทำได้โดยการขมิบช่องคลอดนาน 8-12 วินาที ทำ 8-12 ครั้ง/วัน โดยวิธีการประเมินว่าการบริหารอุ้งเชิงกรานของเรานั้นมีประสิทธิภาพหรือไม่ ให้ดูจาก ขณะที่เราปัสสาวะ ลองขมิบช่องคลอดว่าสามารถกลั้นไม่ให้ปัสสาวะไหลได้หรือไม่หากสามารถทำได้ แปลว่า กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานของเรามีความแข็งแรงขึ้นค่ะ

หากลองทำวิธีการข้างต้นแล้วยังไม่สามารถบรรเทาอาการปัสสาวะเล็ดลงได้ ควรที่จะไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา ไม่ว่าจะเป็นการรักษาโดยการใช้ยา การผ่าตัด หรือการรักษาด้วยวิธีการอื่นๆ ค่ะ ทุกคนไม่ควรที่จะละเลย หรือปล่อยให้อาการปัสสาวะเล็ดเกิดขึ้นเป็นประจำ เพราะเมื่อนานไปอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์และคุณภาพชีวิตเราได้ค่ะ

สนใจบริการ

เฝ้าไข้ที่บ้านและโรงพยาบาล #พาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล #ดูแลเจาะเลือดที่บ้าน #บริการทำแผลที่บ้าน #บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้าน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @unitynursingcare
Tel ????: 063-526-5593
E-mail ????: unitynursingcare@gmail.com
Website ???? : www.unitynursingcare.com

โรคเบาหวาน (Diabetes Millitus)

โรคเบาหวาน (Diabetes Millitus)

เป็นโรคทางเมทาบอลิซึม (metabolism) เกิดจากการที่ตับอ่อนสร้าง อินซูลิน (insulin) ได้ลดลง หรืออินซูลิน ที่หลั่งออกมานำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ลดลง ทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงนั่นเองค่ะ

โดยผู้ป่วยโรคเบาหวานมักมีอาการกระหายน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย กินจุ น้ำหนักลด ตามัว ชาตามปลายมือปลายเท้า

และหากมีการเจาะเลือดไปตรวจระดับน้ำตาลในกระแสเลือด จะแบ่งระดับได้ดังนี้ค่ะ

  1. ระดับปกติ จะมีระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร 8 ชั่วโมง < 100 mg./dl หรือน้ำตาลหลังทานอาหาร 2 ชั่วโมง < 140 mg./dl
  2. ระดับเสี่ยง จะตรวจพบระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร 8 ชั่วโมงอยู่ในช่วง 100-125 mg./dl และระดับน้ำตาลในเลือด ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง อยู่ระหว่าง 140-199 mg./dl
  3. ระดับผิดปกติ จะมีระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร 8 ชั่วโมง > 126 mg./dl หรือน้ำตาลในเลือด ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง > 200 mg./dl

ซึ่งหากตัวท่านอยู่ในระดับเสี่ยงควรจะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและควบคุมอาหาร ลดการทานหวานลง จะช่วยชะลอการเกิดโรคเบาหวานได้ หรือหากมีระดับน้ำตาลในเลือดผิดปกติ ท่านควรจะสังเกตอาการของเบาหวานที่มีร่วมด้วย เพื่อที่จะได้แจ้งให้แพทย์รับทราบ เพื่อประเมินเรื่องการใช้ยาเบาหวานที่เหมาะสม ร่วมกับการปรับพฤติกรรม ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงกับปกติ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยเบาหวานค่ะ

สนใจบริการ

เฝ้าไข้ที่บ้านและโรงพยาบาล #พาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล #ดูแลเจาะเลือดที่บ้าน #บริการทำแผลที่บ้าน #บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้าน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @unitynursingcare
Tel ????: 063-526-5593
E-mail ????: unitynursingcare@gmail.com
Website ???? : www.unitynursingcare.com

วิธีบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน (Menstrual Pain)

เคล็ดลับบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน (Menstrual Pain)

เมื่อถึงวันนั้นของเดือน เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนต้องมีอาการปวดท้องประจำเดือนกันแน่เลยค่ะ
การปวดท้องประจำเดือน เกิดจากการบีบรัดตัวของมดลูกนั่นเอง

วันนี้ Unity Nursing Care พาเพื่อนๆ มาดู 5 วิธีบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนกันค่ะ

  1. การประคบร้อน โดยวางกระเป๋าน้ำร้อนบริเวณท้องน้อย แต่ต้องระวังไม่ให้ร้อนเกินไป อาจใช้ผ้าขนหนูห่อก่อนวางกระเป๋าน้ำร้อนลงบนผิวหนัง เพราะการวางกระเป๋าน้ำร้อนบนผิวหนังโดยตรงอาจทำให้ผิวหนังบริเวณที่วางเป็นแผลไหม้จากความร้อนได้ค่ะ
  2. การอาบน้ำอุ่น เพื่อช่วยให้มดลูกคลายตัว บรรเทาความปวดลงได้
  3. หากิจกรรมเบี่ยงเบนความสนใจ ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ การฝึกโยคะ
  4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  5. หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  6. รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย ลดโซเดียม คาเฟอีน งดการดื่มแอลกอฮอร์ เพื่อป้องกันท้องอืด

หากใช้วิธีการข้างต้นแล้วยังไม่หาย ท่านสามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาการปวดท้องประจำเดือนได้เช่นกันค่ะ

แต่หากใครที่ใช้วิธีบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนข้างต้น และรับประทานยาแก้ปวดท้องแล้วยังไม่หาย ควรที่จะไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุนะคะ เพราะการปวดท้องประจำเดือนที่มากผิดปกติ อาจเกิดจากภาวะผิดปกติของมดลูกหรืออวัยวะสืบพันธ์ เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ เนื้องอกมดลูก ได้ค่ะ

สนใจบริการ

เฝ้าไข้ที่บ้านและโรงพยาบาล #พาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล #ดูแลเจาะเลือดที่บ้าน #บริการทำแผลที่บ้าน #บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้าน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @unitynursingcare
Tel ????: 063-526-5593
E-mail ????: unitynursingcare@gmail.com
Website ???? : www.unitynursingcare.com

ปวดหัวแบบนี้ เป็นไมเกรน (Migraine) หรือเปล่านะ?

ปวดหัวแบบนี้ เป็นไมเกรน (Migraine) หรือเปล่านะ?

หลายครั้งเวลาที่เรามีอาการเครียด เราก็มักจะมีอาการปวดศีรษะร่วมด้วย จนทำให้หลายคนคิดว่า เอ๋ ปวดหัวแบบนี้ต้องมาจากไมเกรนแน่ๆ เลย

ก่อนอื่นเรามาดูกันค่ะว่า นอกจากเรื่องความเครียดแล้ว การปวดหัวไมเกรน เกิดได้จากหลายสาเหตุอะไรได้บ้าง

⁃ การพักผ่อนน้อย อดนอน

⁃ ทานอาหารไม่ตรงเวลา

⁃ สภาพอากาศที่ร้อน

⁃ ในเพศหญิงช่วงก่อนหรือหลังมีประจำเดือน จะมีระดับของฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดไมเกรนได้ เช่นกัน

และสัญญาณของโรคไมเกรนนั้น ไม่ได้มีแค่อาการปวดศีรษะอย่างเดียวค่ะ แต่ความจริงแล้วมีหลายอย่าง เช่น กรณีปวดศีรษะมักปวดข้างเดียว แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจมีปวด 2 ข้างได้
โดยลักษณะอาการปวดมักจะเป็นแบบปวดตุบๆ ซึ่งในบางรายอาจมีอาการนำ เช่น การเห็นแสงระยิบระยับ

เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว เราควรหมั่นสังเกตตัวเราเอง หากพบว่า เรามีอาการดังกล่าวข้างต้น เราควรจะปรับพฤติกรรมเพื่อป้องกันการปวดศีรษะจากไมเกรน เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ตรงเวลา ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหากิจกรรมที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

แต่หากการปรับพฤติกรรมข้างต้นแล้วอาการปวดศีรษะไม่หายไป ท่านควรจะไปพบแพทย์เพื่อรับประทานยาเพื่อให้เหมาะสมกับอาการที่เป็น เพื่อไม่ให้ระดับความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้นและส่งผลต่อคุณภาพการดำรงชีวิตค่ะ

สนใจบริการ

#พยาบาลเฝ้าไข้ที่บ้านและโรงพยาบาล#พาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล #ดูแลเจาะเลือดที่บ้าน #บริการทำแผลที่บ้าน #บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้าน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @unitynursingcare
Tel ????: 063-526-5593
E-mail ????: unitynursingcare@gmail.com
Website ???? : www.unitynursingcare.com

วิธีทำความสะอาดหน้ากากผ้า

การทำความสะอาดหน้ากากผ้า

การทำความสะอาดหน้ากากผ้า

หน้ากากอนามัย ควรจะต้องใช้ 1 วันแล้วทิ้ง หรือหากก่อนจะครบ 1 วันแต่หน้ากากมีเลอะ มีสกปรกมาก ก็ควรจะทิ้งไปเลย ไม่ควรนำกลับมาใช้ซ้ำ

หลายคนพอฟังอย่างนี้แล้วอาจรู้สึกว่า การใช้หน้ากากอนามัยค่อนข้างสิ้นเปลือง ทำให้หันมาใช้หน้ากากผ้าแทน เพราะหน้ากากผ้านั้น สามารถซักทำความสะอาดได้ เมื่อสกปรก หรือเมื่อเราใส่ครบ 1 วันแล้ว

วันนี้ Unity Nursing Care จึงพาทุกคนมาดูการทำความสะอาดหน้ากากผ้าอย่างถูกวิธีกันค่ะ

  1. ถอดหน้ากากออกจากหน้า โดยจับที่หูทั้ง 2 ข้างแล้วดึงออกไปข้างหน้า
  2. ล้างมือก่อนและหลังถอดหน้ากาก
  3. ซักหน้ากากด้วยน้ำสะอาดและน้ำยาซักฟอกอย่างนุ่มนวล
  4. ตากหน้ากากให้แห้ง หลีกเลี่ยงการตากในที่แดดจัด
  5. ใช้เตารีดรีดเพื่อช่วยให้หน้ากากเรียบและอยู่ทรง (สำหรับผ้าที่รีดได้นะคะ)
  6. เก็บหน้ากากที่ซักทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วในภาชนะที่แห้ง สะอาด มีฝาปิด เพื่อป้องกันสิ่งสกปรก

เห็นไหมล่ะค่ะว่า ‘การซักทำความสะอาดหน้ากากผ้า’ นั้นไม่ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ หากทุกคนหมั่นซัก ทำความสะอาดหน้ากากผ้าแล้ว นอกจากจะได้ใส่หน้ากากผ้าที่หอม สะอาดแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าหน้ากากอนามัยที่ต้องใช้แล้วทิ้งได้อีกมากเลยค่ะ

สนใจบริการ

#พยาบาลเฝ้าไข้ที่บ้านและโรงพยาบาล#พาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล #ดูแลเจาะเลือดที่บ้าน #บริการทำแผลที่บ้าน #บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้าน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @unitynursingcare
Tel ????: 063-526-5593
E-mail ????: unitynursingcare@gmail.com
Website ???? : www.unitynursingcare.com