ถุงยางอนามัย (Condom) มาจากภาษาละติน แปลว่า ภาชนะรองรับ

การใช้ถุงยางอนามัยเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วยค่ะ โดยถุงยางอนามัยมีทั้งแบบของผู้หญิง และถุงยางอนามัยของผู้ชาย แต่คนส่วนใหญ่เมื่อนึกถึงถุงยางอนามัยจะนึกถึงถุงยางอนามัยของผู้ชาย ก่อนค่ะ เพราะถุงยางอนามัยของผู้ชายเป็นที่นิยมเนื่องจากหาซื้อได้ง่ายและใช้งานได้สะดวกค่ะ
ถุงยางอนามัย ถูกผลิตขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1564 เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยวิวัฒนาการของถุงยางอนามัย แต่ก่อนมีการใช้ไส้แกะในการทำถุงยางอนามัย ในปัจจุบันถุงยางอนามัยถูกผลิตโดย โพลียูรีเทน เนื่องจากราคาถูก หาซื้อได้ง่าย ป้องกันเชื้อไวรัสได้และทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพ้ถุงยางอนามัยได้น้อยกว่าค่ะ

โดยถุงยางอนามัยนั้นมีหลายขนาด ค่ะ เช่น 49 mm., 52 mm., 54 mm., 56 mm. ค่ะ ขนาดที่เป็นไซส์มาตรฐานของคนไทยคือไซส์ 49 mm. และ 52 mm. ค่ะ ทั้งนี้ขนาดที่เห็นดังกล่าว ไม่ใช่ขนาดความยาวของอวัยวะเพศนะคะ แต่เป็นขนาดเส้นรอบวงของอวัยวะเพศเมื่อมีการแข็งตัวค่ะ

การเลือกไซส์ถุงยางอนามัย ให้เหมาะสมกับขนาดของอวัยวะเพศนั้นมีความสำคัญค่ะ เพราะหากเลือกไซส์ไม่เหมาะสมอาจเกิดปัญหาเหล่านี้ตามมาได้ เช่น

  • เลือกไซส์ถุงยางอนามัยใหญ่กว่าขนาดอวัยวะเพศ จะทำให้ถุงยางหลวม และหลุดขณะมีเพศสัมพันธ์ได้
  • เลือกไซส์ถุงยางอนามัยเล็กกว่าขนาดอวัยวะเพศ อาจจะทำให้ถุงยางอนามัยแตกขณะมีเพศสัมพันธ์ได้ค่ะ

การวัดขนาดของอวัยวะเพศเพื่อเลือกขนาดของถุงยางอนามัยให้เหมาะสม สามารถทำได้ ดังนี้ค่ะ

  1. ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัว
  2. ใช้ไม้บรรทัดวัดไซส์วัดรอบอวัยวะเพศ(เส้นรอบวง) ในส่วนที่อวบที่สุด (ไม่ใช่ความยาวนะคะ)
  3. นำความยาวที่ได้มาหารด้วย 2.3 จะได้ขนาดของถุงยางอนามัยที่ควรเลือกใช้ค่ะ

เช่น วัดเส้นรอบวงอวัยวะเพศขณะแข็งตัวได้ 112 มิลลิเมตร หารด้วย 2.3 จะต้องเลือกถุงยางอนามัยไซส์ 49 mm. ค่ะ

สนใจบริการ

บริการเจาะเลือดที่บ้าน #บริการทำแผลที่บ้าน #บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้าน #บริการเปลี่ยนสายให้อาหารที่บ้าน #บริการเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะที่บ้าน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @unitynursingcare
Tel 📱: 063-526-5593
E-mail 📩: unitynursingcare@gmail.com
Website 🌐 : www.unitynursingcare.com